‘น้องทีน กะเพราอ้วนตรึ้ม’ เสียชีวิต อาลัย เด็กไร้บ้านสู้ชีวิต เปิดร้านกะเพราเองเลี้ยงชีพ

‘น้องทีน กะเพราอ้วนตรึ้ม’ เสียชีวิต อาลัย เด็กไร้บ้านสู้ชีวิต เปิดร้านกะเพราเองเลี้ยงชีพ

ชาวเน็ตร่วมไว้อาลัย น้องทีน กะเพราอ้วนตรึ้ม เด็ก 16 ปี ไร้บ้านสู้ชีวิต จนสามารถเปิดร้านกะเพราเอง เสียชีวิตแล้ว คาดติดเชื้อในกระแสเลือด เพจเฟซบุ๊ก ตี๋อ้วนชวนหิว ได้แจ้งข่าวเศร้าถึงการเสียชีวิตของ น้องทีน กะเพราอ้วนตรึ้ม หรือ นาย สดายุ ศุภผลศิริ เด็กหนุ่มวัย 16 ปีที่กลายเป็นเด็กไร้บ้าน เนื่องจากที่บ้านมีปัญหา แต่สู้ชีวิต และได้รับการช่วยเหลือจากพี่ชายคนหนึ่งที่ให้ที่พักและสอนทำอาหารจนสามารถเปิดร้าน อ้วนตรึ้ม กะเพราตะหลิวตัด ได้และกลายเป็นข่าวดังในโลกออนไลน์ก่อนหน้านี้

ทางเพจ ตี๋อ้วนชวนหิว ระบุว่า “น้องทีน กะเพราอ้วนตรึ้มเสียละครับ 

น้องคนที่ผมและปลากระป๋องกัปตันเรือไปช่วยให้น้องได้มีชีวิตใหม่กับรายการช่วยด้วย ผมเพิ่งทราบข่าวในนาทีนี้ที่มีคนแจ้งมาทางเฟซบุ๊กว่าน้องเสียแล้ว เอาตรงๆ ผมเสียใจและเสียดายกับเด็กน้อยคนนี้ที่เพิ่งจะได้มีความสุข มีร้านกะเพรา มีเงินซื้อของเล่น มีชีวิตที่กำลังจะดีขึ้น ผมไม่ทราบว่าน้องเป็นอะไรเสียชีวิต แต่ขอแสดงความเสียใจ หลับให้สบายไม่มีไรต้องห่วงละนะทีน ย่าคงมารับแกไปอยู่ด้วยในภพภูมิที่ดี

อย่างน้อยพี่ก็ดีใจ ที่ทำให้แกพลิกฟื้น ถึงแม้จะเป็นเวลาสั้นๆ โดยที่ไม่มีใครรู้ว่ามันจะสั้นแบบนี้ แต่คิดว่าทีนคงมีความสุขบ้าง ไม่มากก็น้อย พวกเราคงจดจำและคงคิดถึงรสชาติกะเพราอ้วนตรึ้มกับชื่อที่พี่ตั้งให้ไปตลอดกาล RIP น้องทีนด้วยรัก พี่ตี๋อ้วน” นอกจากนี้ยังได้คอมเมนต์ข้อมูลเพิ่มเติมใต้โพสต์ถึงสาเหตุการเสียชีวิตน้องทีนอีกว่า “น่าจะติดเชื้อในกระแสเลือด จากการเป็นแผลพุพองที่เท้า และอีกหลายโรค”

หลังจากที่ข่าวของน้องทีน กะเพราตะหลิวตัด เสียชีวิตได้รับการเผยแพร่ออกไปก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความอาลัยกันเป็นจำนวนมาก รวมถึงแสดงเศร้าที่ชีวิตน้องกำลังดีขึ้น แต่โชคชะตาต้องพรากชีวิตน้องไปก่อน

ชวน หลีกภัย แจงกรณี ส.ส.ลาออก ไม่ต้องเลือกตั้งใหม่หากอายุสภาไม่ถึง 180 วัน สมาชิกที่มีอยู่ปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร มอบหมายให้ นายณัฐกานต์ ชูชนะ เลขานุการคณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงหลังมี ส.ส. ลาออกจากตำแหน่ง และทำให้เกิดคำถามว่าจะต้องจัดเลือกตั้งใหม่อีกรอบหรือไม่นั้น

ในประเด็นนี้ นายณัฐกานต์ ระบุว่า หากส.ส.แบบแบ่งเขตว่างลง และอายุของสภาฯเหลือไม่ถึง 180 วัน ไม่ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่

ดังนั้นการลาออกของส.ส.แบบแบ่งเขตในช่วงนี้ จึงไม่ต้องจัดการเลือกตั้งซ่อม เนื่องจากสภาฯมีอายุเหลือไม่ถึง 180 วัน โดยสมาชิกเท่าที่มีอยู่ของสภาฯยังคงสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ รวมทั้งการผ่านร่างกฎหมายได้ตามปกติ

‘ประยุทธ์’ ห่วงประชาชนเผชิญ อากาศหนาว ช่วง 17-20 ธ.ค.

ประยุทธ์ แสดงความห่วงใยประชาชนหลังในช่วง 17-20 ธ.ค. อากาศหนาว แนะเตรียมเครื่องนุ่มห่มกันหนาวให้เพียงพอ ดูแลร่างกายให้แข็งแรง นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยพี่น้องประชาชนในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง ซึ่งหลายพื้นที่มีอากาศหนาวเย็นอุณหภูมิลดลง หลังกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศ ระบุว่า ในช่วงวันที่ 17-20 ธันวาคมนี้ บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 6-8 องศาเซลเซียส บริเวณพื้นราบอุณหภูมิต่ำสุด 10-18 องศาเซลเซียส

ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-10 องศาเซลเซียส สำหรับภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

“นายกรัฐมนตรีห่วงใยในสุขภาพของประชาชน ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วย ดูแลร่างกายให้อบอุ่น ดังนั้น ควรเตรียมเครื่องนุ่งห่มกันหนาวให้พร้อมและเพียงพอ พร้อมทั้งดูแลร่างกายให้แข็งแรง ออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ทั้งนี้ หากพื้นที่ใดมีความจำเป็นที่จะต้องก่อไฟเพื่อช่วยให้อุ่นขึ้น ขอให้ดูแลระมัดระวังในเรื่องอัคคีภัยด้วย” นายอนุชาฯ กล่าว

นายอนุชาฯ กล่าวด้วยว่า ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข่าวสาร และประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้ เพราะนอกจากจะได้เตรียมพร้อมรับกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงแล้ว ในภาคใต้ยังต้องระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มด้วย โดยสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา www.tmd.go.th หรือโทรศัพท์สอบถามที่สายด่วน หมายเลข 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> เซ็กซี่บาคาร่า ไฮโลออนไลน์