นอสตราดามุสคนใหม่ เชื่อจะมีดาวเคราะห์พุ่งชนโลก เผยวิธีแก้ทำดี-คิดดี

นอสตราดามุสคนใหม่ เชื่อจะมีดาวเคราะห์พุ่งชนโลก เผยวิธีแก้ทำดี-คิดดี

นอสตราดามุสคนใหม่ หมอดูพลังจิตคนดังของอังกฤษ ทำนายจะมีดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลกในอนาคต สร้างความเสียหายเหมือนกับที่เคยทำไดโนเสาร์สูญพันธุ์ หลังเพิ่งทายเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 3 จะเกิด เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น เว็บไซต์สำนักข่าวชื่อดัง มิร์เรอร์ (Mirror) ของอังกฤษ รายงานว่า นายเคร็ก ฮามิลตัน-ปาร์กเกอร์ หมอดูพลังจิตคนดังชาวอังกฤษ เจ้าของฉายา “นอสตราดามุสคนใหม่” ได้ออกมาแจ้งเตือนชาวโลกให้เตรียมรับมือกับดาวเคราะห์ดวงน้อยซึ่งจะพุ่งชนโลกของเราในอนาคต

การออกมาทำนายชะตากรรมที่จะเกิดในภายภาคหน้าครั้งนี้ 

นายเคร็ก หรือ ได้เปิดเผยไว้ในแชนแนลยูทูบของตัวเองที่ชื่อช่อง Craig Hamilton-Parker โดยระบุเนื้อหาประมาณว่า จะมีดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลกครั้งใหญ่ในอนาคตและจะก่อให้เกิดความเสียหายเหมือนกับที่เคยทำให้ ไดโนเสาร์สูญพันธ์ุไปจากโลกเมื่อ 65 ล้านปีก่อน

‘มันเคยเกิดขึ้นครั้งหนึ่งแล้ว มันสามารถเกิดขึ้นได้อีก คุณแค่เพียงมองไปที่ดวงจันทร์และจะเห็นหลุมอุกกาบาตมากมายบนนั้น พวกเราอยู่ในสิ่งแวดล้อมของอวกาศ หรือจักรวาล มันอาจมีดาวเคราะห์น้อยอีกดวงหนึ่งกำลังมายังโลกของเรา เคยมีดาวเคราะห์น้อยชนโลกครั้งหนึ่งที่บริเวณเขตไซบีเรียเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก่อให้เกิดแรงระเบิดรุนแรงมหาศาล ขณะมันเคลื่อนผ่านชั้นบรรยากาศโลกเข้ามาก่อนพุ่งชน’ ฮามิลตัน-ปาร์กเกอร์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม หมอดูฮามิลตัน-ปาร์กเกอร์ ได้ให้ทางออกว่า เขารู้วิธีที่จะช่วยกันป้องกันหายนะดังกล่าวที่จะนำไปสู่จุดจบของโลก ซึ่งก็คือการ ทำดี-คิดดี เพราะการทำสิ่งดีเหล่านี้สามารถเปลี่ยนเส้นทางของดาวเคราะห์น้อยที่จะชนโลกได้

การออกมาเตือนของหมอดูพลังจิต ฉายานอสตราดามุสคนใหม่นี้มีขึ้นหลังจาก ดาวเคราะห์น้อย 2023 BU ซึ่งมีขนาดเท่ากับรถบัส เพิ่งพุ่งผ่านบริเวณปลายทวีปอเมริกาใต้ โดยห่างเพียงแค่ 3,600 กิโลเมตรเท่านั้น เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา หลังจากนักดาราศาสตร์มือสมัครเล่นได้สังเกตพบดาวเคราะห์น้อยดวงนี้เพียงแค่ไม่กี่วัน ก่อนที่มันจะพุ่งเฉียดโลก

ก่อนหน้านี้ หมอดูพลังจิต ฮามิลตัน-ปาร์กเกอร์ ได้กล่าวกับเดลี่สตาร์ ทำนายว่า จะเกิดเหตุเครื่องบินตก จนจุดชนวนไปสู่การเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่จะอุบัติขึ้นในปีนี้ เนื่องจากเหตุการณ์นี้จะก่อให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้นที่เกี่ยวข้องกับจีนและรัสเซีย และจะกลายเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสที่สุดสำหรับสองปีข้างหน้าที่กำลังมาถึง.

สำหรับใครที่อยากไปเข้าไปฟังคำทำนายของ คุณเคร็ก หมดดูพลังจริง หรือ นอสตราดามุสคนใหม่ ผู้บันทึกประวัติศาสตร์จากอนาคตก็สามารถเข้าไปรับชมได้ผ่านแชนแนลของเจ้าตัวที่ใช้ชื่อเดียวกัน @Craig Hamilton-Parker

ชาวไทยหวั่นโควิดระบาดหนัก ภายหลังจีนเปิดประเทศ 8 ม.ค.

ชาวเน็ตไทยกังวล โควิดระบาด หลัง จีนเปิดประเทศ 8 ม.ค. ท่ามกลางจำนวนผู้ป่วยโควิดที่ทะยานสูงขึ้นต่อเนื่อง คาดจำนวนผู้ป่วยแตะ 2 ล้านช่วงปีใหม่ จากกรณีที่ประเทศจีนเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว 8 มกราคม พร้อมยกเลิกการกักตัวสำหรับนักท่องเที่ยวที่บินเข้าประเทศโดยไม่ได้จีนแผ่นดินใหญ่และมาเก๊า กล่าวคือนักท่องเที่ยวชาวจีนสามารถบินไปประเทศอื่นได้ และเมื่อกลับประเทศจีนไม่ต้องกักตัว เช่นเดียวกันกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

จากการที่จีนเปิดประเทศและผ่อนมาตรการโควิด ทำให้การค้นหาเที่ยวบินชาวจีนเพิ่มสูงขึ้นเป็น 7 เท่า และทำให้ผู้เชี่ยวชาญคาดว่านักท่องเที่ยวจะบินเข้ามาประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เนื่องจากประเทศไทยนั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวจีน อ้างอิงตามเว็บไซต์ Marketscan ได้ระบุว่า ประเทศที่ชาวจีนเดินทางมากที่สุดในปี 2561 คือประเทศไทย ตามด้วยญี่ปุ่น และเวียดนาม

หลายฝ่ายมองว่าการเปิดประเทศในครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยว รวมถึงร้านค้าตามสถานที่ท่องเที่ยวก็มีโอกาสในการค้าขายมากขึ้น อย่างไรก็ตามชาวเน็ตหลายคนก็แสดงความกังวลว่าการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากจีนจะนำไปสู่การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 หรือไม่ เนื่องจากในขณะนี้ประเทศจีนเผชิญกับคลื่นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหญ่อยู่ในขณะนี้

มณฑลเจ้อเจียงเมืองอุตสาหกรรมของจีนซึ่งอยู่ใกล้เซี่ยงไฮ้รายงานว่าพวกเขาพบผู้ป่วยโควิด-19 ราวล้านรายทุกวัน และคาดว่าในช่วงปีใหม่ที่จะถึงนี้ จำนวนผู้ป่วยอาจพุ่งสูงถึง 2 ล้านรายเลยทีเดียว และนอกเหนือจากมณฑลเจ้อเจียง แล้ว เมืองตงกว่านรายงานว่าพวผู้ป่วยราวๆ 250,000 รายถึง 300,000 ราย ชิงเต่ามณฑลชานตงก็มีคนติดเชื้อรายวันอยู่ที่ 4.9 แสนถึง 5 แสนคน อย่างไรก็ตามจำนวนตัวเลขขัดแย้งกับตัวเลขที่รัฐบาลกลางรายงาน ยิ่งนำไปสู่การตั้งคำถามมากว่าเดิม

ขณะที่สำนักข่าว BBC รายงานว่า ประชาชนในปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้แจ้งว่าพวกเขาร้านขายยาไม่มียาแก้หวัดเหลือแล้ว พร้อมแสดงความกังวลว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะไม่ถูกเปิดเผย ท่ามกลางรายงานว่าฌาปนสถานเต็มแล้ว

สาเหตุที่จำนวนตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการทิ้งมาตรการโควิดเป็นศูนย์ หลังจากเผชิญกับเสียงประท้วงของประชาชนอย่างรุนแรงและนำไปสู่การขับไล่ สีจิ้นผิง ประธานาธิบจีน โดยประชาชนมองว่ามาตรการโควิดเป็นศูนย์เป็นต้นตอสำคัญของการหดตัวของเศรษฐกิจ เนื่องจากมาตรการโควิดเป็นศูนย์นั้น ทำให้ทางการจีนสั่งล็อกดาวน์ทั้งเมืองบ่อยครั้ง หลังมีรายงานว่าพบผู้ป่วยโควิด

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> ufabet เว็บตรง